ในการบริหารแผนฟื้นฟูกิจการ สีลม แอดไวซอรี่ ได้กำหนดโครงสร้างในการบริหารแผนไว้ 3 ด้าน ซึ่งเป็นงานหลักของการบริหารแผน ซึ่งได้แก่ ในด้านการจัดการการเงิน , การจัดการด้านปฏิบัติการ และการจัดการเชิงกลยุทธ์ อาจกล่าวได้ว่า ลูกหนี้ที่ได้รับการอนุมัติจากเจ้าหนี้และศาลล้มละลายให้ดำเนินการปฏิบัติตามแผนฟื้นฟูกิจการแล้ว จะมีระยะเวลาอันจำกัด ในการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการ ดังนั้น แนวทางทั้งสามดังกล่าว จึงเป็นสิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการและดำเนินการภายใต้ระยะเวลาตามแผนที่กำหนดไว้อย่างชัดเจน ดังมีสาระสำคัญโดยย่อ ดังนี้
ก. ด้านการจัดการทางการเงิน ลูกหนี้ที่ได้รับอนุมัติให้ดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการ ส่วนใหญ่แล้วจะต้องมีการดำเนินการแก้ไขโครงสร้างของทุน ไม่ว่า จะเป็นการลดทุน เพิ่มทุนให้ผู้ถือหุ้น หรือ ผู้ลงทุนรายใหม่ การดำเนินการทางการเงินในส่วนนี้จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย และหากลูกหนี้ดังกล่าวเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแล้ว จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบและกฎหมายที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกำหนดด้วย นอกจากนี้ ยังมีการจัดการทางการเงินในเรื่องต่าง ๆ อีกด้วย สีลม แอดไวซอรี่ จะสามารถดำเนินการให้เป็นไปตามแผนได้ ทั้งนี้ เนื่องจากบุคลากร ของสีลม ประกอบด้วยผู้มีประสบการณ์ในด้านการเงิน , บัญชี และกฎหมาย
ข. ด้านการจัดการปฏิบัติการ ในการบริหารแผนฟื้นฟูกิจการ การดำเนินการธุรกิจหลักของลูกหนี้จะต้องได้รับการเร่งรัดให้เป็นไปตามแผนฟื้นฟูกิจการที่กำหนดไว้ ซึ่งผู้บริหารของสีลม แอดไวซอรี่ ทั้ง คุณสนทยา น้อยเจริญ และคุณวิทยา จังสมบัติศิริ มีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม ต่าง ๆ ที่หลากหลาย ซึ่งจะทำให้การบริหารธุรกิจของลูกหนี้เป็นไปตามแผนฟื้นฟูกิจการ อย่างไรก็ตาม ในหลักการของการบริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัทฯ จะแสวงหาความร่วมมืออย่างเต็มที่จากผู้บริหารและผู้ถือหุ้นของลูกหนี้ เพื่อร่วมมือกันในการบริหารธุรกิจของลูกหนี้ให้เป็นไปตามแผนฟื้นฟูกิจการที่กำหนดไว้ ในขณะเดียวกัน ก็เร่งดำเนินการสร้างธุรกิจใหม่ เพื่อเสริมสร้างโอกาสให้แก่ลูกหนี้ในการสร้างผลกำไรอย่างต่อเนื่องและมั่นคงให้กับลูกหนี้ต่อไป
ค. ด้านการบริหารเชิงกลยุทธ์ การจัดการเชิงกลยุทธ์ เป็นหัวใจหลักของการบริหารแผนฟื้นฟูกิจการ ที่จะทำให้บริษัทลูกหนี้สามารถดำรงอยู่ต่อไปได้อย่างมั่นคง และต่อเนื่อง ซึ่งผู้บริหารของบริษัทเป็นผู้มีความเชี่ยวชาญ ในการบริหารงานเชิงกลยุทธ์ อันจะทำให้สามารถแสวงหาความร่วมมือจากทุกฝ่ายไม่ว่า จะเป็น ผู้บริหาร พนักงาน ผู้ถือหุ้น ลูกค้า คู่ค้า และคู่แข่งขัน เพื่อเสริมสร้างให้ลูกหนี้สามารถกลับเข้ามาสู่ตลาดได้อีกครั้งหนึ่ง และที่สำคัญ เพื่อให้ผู้บริหาร และพนักงานทุกคนได้เข้าใจถึงการวัดประสิทธิผลในการปฏิบัติงาน จะมีการนำเครื่องมือชี้วัดใหม่ ๆ เช่น หลักการวัดผลการปฏิบัติงาน Balance Score card มาเป็นเครื่องมือในการวัดผลการปฏิบัติงาน เป็นต้น
บริษัทฯ ได้กำหนดค่าใช้จ่ายในการบริหารแผนฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้เป็นรายชั่วโมง โดยคำนวณจากมูลค่าของงานที่ได้ทำจริง และมีกำหนดเพดานของค่าใช้จ่ายสูงสุดไว้ เพื่อให้คณะกรรมการเจ้าหนี้ และผู้เกี่ยวข้องได้ทราบ สำหรับค่าใช้จ่ายในการบริหารแผนฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้จะขึ้นอยู่กับขนาดและธุรกรรมของบริษัทลูกหนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปจะมีค่าใช้จ่ายในการบริหารแผนฟื้นฟูกิจการ ประมาณเดือนละ 300,000 – 700,000 บาท ทั้งนี้ ในการคิดคำนวณค่าใช้จ่ายดังกล่าวอยู่ภายใต้เงื่อนไขดังที่ได้กล่าวมาข้างต้น
|